Travel & Route
ปั่นสานสัมพันธ์สองแผ่นดิน (ตราด-เกาะกง) อิสรภาพและเสรีแห่งหัวใจสีเขียว

 โดย   Oh  Sam

   

    11 กันยายน 2556 หลังจากคณะของเราลงจากเทือกเขาบรรทัดด้านขึ้นไปจากตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด เพื่อชมวิวทิวทัศน์สุดสายตาของพื้นที่ชายฝั่งทะเลและชุมชนบ้านเรือนในจังหวัดตราดและมองผ่านม่านหมอกลงไปข้างล่างจนเห็นน่านน้ำทะเลไทยกว้างไกล เวลาที่น่าประทับใจอีกช่วงของการเดินเท้ามายังอีกจุดหนึ่งเพื่อขึ้นไปเยี่ยมเยือนแหล่งสำคัญทางประวัติศาสตร์การสู้รบกันระหว่างทหารไทยและทหารเวียดนาม ใน “ยุทธการบ้านชำราก” เมื่อ 4-8 พฤษภาคม 2528 โดยเป็นวีรกรรมของทหารนาวิกโยธินไทยจากกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้สู้รบขับไล่ทหารเวียดนามประมาณ 1 กรม ที่รุกไล่ติดตามกองกำลังกัมพูชาประชาธิปไตยฝ่าย “นายเขียวสัมพัน” แล้วล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยราว 2 กิโลเมตร

    ทหารเวียดนามวางกำลังยึดพื้นที่บนสันเขาบรรทัดและดัดแปลงเป็นที่มั่นไว้แข็งแรงมั่นคง ทั้งการสร้างกระท่อม ขุดหลุมเพลาะ แนวบังเกอร์ และวางกับระเบิดไว้แบบปูพรม กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดจึงจัดกำลังโจมตีผลักดันขับไล่ให้ถอยออกไปจากเขตแดนไทยโดยยึดที่มั่นของทหารเวียดนามได้สำเร็จ ช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเมื่อได้เห็นซากอาวุธของ 2 ฝ่าย ทั้งเครื่องยิงลูกระเบิด ปืนขนาดใหญ่และเล็กที่เก่าคร่ำอยู่กลางพงไพรและอนุสรณ์สถานของนักรบไทยที่พลีชีพเพื่อชาติพร้อมกับจินตนาการตามเหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนั้น

    ผมตั้งใจว่าจะหาโอกาสกลับมาเยือนสันเขาที่จุดนี้อีกสักครั้งหนึ่ง เพื่อย้อนรำลึกประวัติศาสตร์และหามุมสงบนอนเล่นอ่านหนังสือที่ชอบ และตั้งเต็นท์ดูดาวในคืนที่ฟ้าใสจากหมู่เมฆบนสันเขาลำเนาไพรแห่งนี้  

    ลงจากเทือกเขาบรรทัดหลังจากพอได้เหงื่อชุ่มตัวและสูดรับอากาศดีๆ จนชื่นปอดกันถ้วนทั่วทุกคนแล้ว คณะเราก็ลงมายังพื้นราบไปตะลอนเที่ยวทั่วชุมชนบ้านชำราก ทั้งวัด ย่านชุมชน สวนสาธารณะ และชุมชนริมน้ำ จากนั้นก็ไปหาสถานที่นั่งสงบเพื่อเติมพลังกันต่อในโต๊ะมื้อเย็นราว 6-7 คนในศาลาใต้ไม้ใหญ่ที่ร่มครึ้ม มีลมโชยมาพอเย็นตัว พร้อมลองลิ้มเมนูอร่อยๆ ของร้านอาหารพื้นบ้านแบบชาวเมืองตราด

    เราตั้งใจกันว่าจะอยู่ต่อที่เมืองตราดอีกสัก 1 คืน เพราะเจ้าภาพหลัก ท่านประมวล มุสิกรัตน์ ท่านนายกเทศมนตรีตำบลชำราก อำเภอเมืองตราดได้กรุณาจัดทริปปั่นจักรยานให้เราได้ไปสมทบกับคาราวานจักรยานจำนวนนับพันคันที่จะมีขึ้นในวันรุ่งพรุ่งนี้ 12 กันยายน 2556 ในงานปั่นจักรยานสองแผ่นดิน ไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 2 มิตรภาพไร้เขตแดน FRIENDSHIP OVER THE TIME (KLONGYAI – KOHKONG) 2nd CYCLING FOR FRIENDSHIP OF THAI - COMBODIA 2013

    12 กันยายน 2556 เช้าตรู่ 06:00 น. หลังตื่นจากพักค้างอ้างแรมที่รีสอร์ทใกล้ด่านชายแดนบ้านหาดเล็กจังหวัดตราด ผมออกเดินยืดเส้นยืดสายแถวตลาดนัดหน้าด่านชายแดนกับลุงอู๊ดที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยกองหนุนคาราวานจักรยาน

    ที่ตลาดนัดเช้านี้มีชาวเกาะกงนำผลหมากรากไม้ ปลาทะเล และอาหารที่หุงต้มยำตำปรุงกันตรงนั้นมาวางขายดูคึกคักมาก แล้วจึงเดินหาชากาแฟร้อนรองท้อง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จิบกาแฟกลายเป็นซดก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ไป 1 ชามพอได้อยู่ท้อง เพราะตอนสายวันนี้มีอันต้องใช้พลังน่องสองขาปั่นข้ามไปจังหวัดเกาะกงของกัมพูชาหนะครับ  พออิ่มแล้วก็ไปจูงจักรยานมาตรวจสภาพให้พร้อมใช้งาน เช็คล้อเติมลมยาง เช็คระบบเบรคต้องปึ้กหยุดกึก เช็คระดับอานให้สูงพอดีแบบขาเกือบเหยียดตรงเมื่อวางเท้าบนแป้นถีบ และเช็คข้าวของเครื่องใช้พวกยาลมยาดมยาหม่อง น้ำดื่ม ผ้าขนหนูผืนเล็กลงเป้สะพายไว้พร้อมสรรพ พอหลัง 7 โมงเช้า ชาวจักรยานทั้งพวกฮาร์ดคอ ทั้งพวกใช้ถีบในชีวิตประจำวัน (พวกเด็กนักเรียนที่ปั่นไปเรียน) ทั้งพวกนักท่องเที่ยวก็ทยอยมากันเรื่อยๆ จนเต็มลานถนนหน้าด่านชายแดน

    ครั้น 8 โมงครึ่ง ผมก็จูงจักรยานแม่บ้าน (City Bike) ไปลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียนหน้าอนุสรณ์สถานทหารนาวิกโยธินบ้านหาดเล็ก ตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด

 

    เช้าวันนี้อากาศค่อนข้างเย็นสบาย คล้ายจะเป็นใจให้กับกิจกรรมปั่นเชื่อมสัมพันธ์พี่น้องไทย-เขมร และเพื่อเปลี่ยนจากสมรภูมิความขัดแย้งเป็นเชื่อมการค้าและท่องเที่ยว หลังได้รับเสื้อยืดรณรงค์กิจกรรมปั่นสองแผ่นดินที่เขาทำมาแจกผู้เข้าร่วมปั่นซึ่งสวย เท่ เก๋ ชิค มีเรื่องอุ๊บอิ๊บว่าเสื้อนี้คนนับร้อยไม่ได้รับก็มีนะครับเพราะหมดสต๊อกเสียก่อน เนื่องจากมีนักปั่นมากันมากเกินคาดแบบมืดฟ้ามัวดิน แล้วเขายังมีธงสองประเทศแจกให้ใช้ประดับตกแต่งที่หัวรถ

    ผมใส่เสื้อยืดรณรงค์และประดับธงที่ตะกร้าหน้ารถเสร็จแล้ว พอ 08:45 น. ฝนที่ตั้งเค้าอยู่พักใหญ่ก็ตกมาพอให้รู้สึกฉ่ำเย็น ผมไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อฝนจากเป้ที่พกไว้ปั่นช่วงฤดูฝนมาใส่ตัดหน้าพระพิรุณได้ทันควัน ครั้น 09:09 น. พอได้ฤกษ์เบิกชัย ท่านธิติพงศ์ พิรุณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตราด กล่าวรายงานถึงการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์และรักษ์โลกในปีนี้ แล้วท่านพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการ จังหวัดตราด ก็ขึ้นกล่าวในฐานะประธานพิธีปล่อยขบวนปั่นสานสัมพันธ์ 2 แผ่นดิน ตราด-เกาะกง ครั้งที่ 2 

    น่าทึ่งว่า เป้าหมายเดิมคณะเจ้าภาพร่วมจัดงานจะจัดคาราวานนักปั่นให้ได้ยอด 999 คัน โดยฝั่งไทยเรารับโควตาไว้ที่ 666 และฝั่งเขมรรับไปที่ 333 แต่พอลงทะเบียนกันครบทั้ง 2 ฝั่งประเทศ ก็รวมยอดได้ถึงเกือบ 1,500 คัน ผมรู้สึกแช่มชื่นหัวใจว่าผู้คนรักสุขภาพกันผ่านกิจกรรมเดินและปั่น อีกทั้งหันมาท่องเที่ยวกันด้วยการสัญจรสีเขียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ และคำว่า “เมืองตราด-กรีนซิตี้” ก็อยู่อีกไม่ไกลเกินฝันแล้วหละครับ  

    ด้วยวันนี้มีนักปั่นจากหลายชมรมปั่นของภาคตะวันออก เช่น ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี รวมไปถึงเด็กๆ ในพื้นที่อำเภอคลองใหญ่พากันจูงจักรยานเข้าร่วมงานนี้กว่า 1,000 คัน โดยหลังจากตีธงปล่อยขบวนจักรยานทั้งหมดจากฝั่งไทย

     เส้นทางวันนี้ คาราวานนักปั่นจะเดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก เข้าสู่เขตจังหวัดเกาะกงของกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนบ้านจามเยี่ยม ของจังหวัดเกาะกง แล้วไปหยุดครึ่งทางเพื่อรวมตัวขบวนนักปั่นทั้งสองชาติในลานพิธีเปิดอย่างเป็นทางการร่วมกันอีกครั้งที่หน้าที่ว่าการอำเภอมณฑลเสมา จังหวัดเกาะกง โดยมีท่านไพฑูรย์ พราหมณ์เกสร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องคอยต้อนรับ รวมระยะทางราว 12 กิโลเมตร

 

    เมื่อขบวนปั่นจักรยานฝ่ายไทยราว 1,000 คัน ทยอยข้ามแดนสู่เมืองเขมร ผมได้ความรู้สึกอลังการงานสร้างและตื่นใจตื่นตามากๆ  ขบวนปั่นปั่นผ่านทิวทัศน์ที่บ้างก็คุ้นตาจำพวกทุ่งหน้า แนวไม้ใหญ่ ฝูงวัวเล็มหญ้า และแปลกตากับอาคารบ้านเรือนและป้ายภาษาขะแมร์

    มีเรื่องหวาดเสียวเล็กน้อยตอนปั่นกันมา 2 กิโลเมตรแรก เด็กหญิงตัวเล็ก ราว ป.4 ป.5 ใช้จักรยานเก่าๆ ของเธอที่จูงติดตัวมาจากบ้านไถลลงเนินแซงผมไปแบบหน้าตาเลิกลั่ก ให้ตายเถอะ !!!! รถจักรถีบของสาวน้อยไม่มีเบรกอีกข้างและอีกข้างก็เบรกไม่หนึบ สุดท้ายก็ต้องล้มโครมลงคางแตกเพราะกระแทกพื้นถนนคอนกรีตอยู่ตรงเนินข้างล่างนั่น ผมไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้ทัน

    หลังส่งสาวน้อยนักปั่นข้ามแดนครั้งแรกในชีวิตของเธอที่แลกมาด้วยเลือดตกยางออกขึ้นรถพยาบาลและยกรถถีบของเธอขึ้นรถกระบะของหน่วยกองหนุนไปแล้ว หนูน้อยคงหมดสนุกที่จะได้อดปั่นไปถึงเป้าหมาย แต่ประสบการณ์เจ็บๆครั้งนี้ก็คงสอนให้เธอได้เรียนรู้อีกบทหนึ่งของชีวิตบนหลังอานว่าต้องตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนออกเดินทาง และทีมสต๊าฟฟ์ของโครงการก็ต้องนำไปปรับปรุงในการจัดกิจกรรมคราวต่อไป ที่ต้องรณรงค์และประชาสัมพันธ์และเน้นย้ำกับเด็กๆ และนักปั่นมือใหม่ ณ จุดลงทะเบียนเรื่องการเตรียมสภาพรถให้พร้อมที่จะขึ้นเขา-ลงเนินกับเส้นทางข้างหน้าได้อย่างสนุกและปลอดภัยร่วมกัน

    ขบวนคาราวานปั่นรักษ์โลกปั่นกันไปเป็นพรวนแบบแถวตอนเรียง 5 ครองพื้นที่ 2 เลนขาเข้าเมืองเกาะกงไปอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ปั่นผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ 2 ข้างทาง อากาศดี ฟ้าสวย จนหัวใจพองโต หลังลงเนินไปอีก 3-4 กิโลเมตร ก็ได้ตื่นตาตื่นใจกับเวิ้งทะเลสาบลากูนที่กว้างใหญ่อยู่ตรงหน้า จนต้องแวะชักรูปแถวสะพานข้ามแม่น้ำเกาะปอหรือแม่น้ำครางครืนอยู่หลายช็อต

    ภาพเบื้องหน้า ณ จุดนี้ เป็นจุดบรรจบพบกันของผืนฟ้า ขุนเขา ท้องน้ำ กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บ้านเรือน ย่านพาณิชย์เรียงรายริมน้ำ น่าไปแวะเดินคงเพลินนัก แต่ก็ทำไม่ได้เพราะต้องรีบตามขบวนผ่านตลาดเกาะกงไปรวมตัวกันที่จุดหมายปลายทางคือสวนสาธารณะ จังหวัดเกาะกง เพื่อชมการแสดงที่ปะรำเวทีกลางแจ้ง มีเยาวชนฟ้อนรำสวยๆ ที่ทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทยได้จัดเตรียมมาอวดประชันกัน จากนั้นก็แวะถ่ายรูปกันในหมู่นักปั่น 2 ชาติ เพื่อแลกรอยยิ้มและมิตรภาพบ้านพี่เมืองน้องเพื่อพร้อมจะเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่จะหลอมรวมสู่กันในเวลาอีกขวบปีเศษข้างหน้านี้ 

    ตอนที่ใบหน้าปะทะสายลมเย็นระหว่างทางปั่น มองไปเห็นทิวทัศน์กว้างไกล หัวใจช่างล่องลอย และลืมเรื่องวุ่นๆ ยุ่งขมองในเมืองใหญ่ ในมโนนึกของผมกลับแว่วเสียงเพลง Fly Away ของ John Denver ลอยแผ่วมาไกลๆ ...

All of her days have gone soft and cloudy,all of her dreams have gone dry.
All of her nights have gone sad and shady. She's getting ready to fly.
Fly away, fly away, fly away.

Life in the city can make you crazyfor sounds of the sand and the sea.
Life in a highrise can make you hungry for things that you can't even see.

Fly away, fly away, fly away.
……………………………………………………………
……………………………………………

    เมื่อกล้ามน่องเริ่มทำงาน เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจเพิ่มแรงบีบ เมื่อจักรยานพาเราลอยละลิ่วแหวกอากาศที่มีฟ้าสวยเป็นฉากหลัง เมื่อได้สูดโอโซนเข้าปอด และเมื่อสายตาเก็บเล็มย่านทิวทัศน์แปลกตา เมื่อนั้นอิสรภาพและเสรีแห่งหัวใจสีเขียว ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีสวรรค์เล็กๆ ห้อมล้อมรอบกายอยู่ทุกคราวที่นั่งอยู่บนหลังอาน ...

 

 

banner ด้านขวา 1
banner ด้านขวา 2
Peenfa Creation