เรื่อง/ภาพ Akom Joe
หลังจากได้สัมผัสวิถีชีวิตการปั่นที่เมืองหลวงมอสโกแล้ว เป้าหมายอีกเมืองที่ผมต้องการได้สำรวจคือนครมรดกโลก “เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก” ของรัสเซีย ผมเดินทางโดยรถไฟแบบนอนจาก “มอสโก” ใช้เวลาประมาณ 8-9 ชั่วโมง ระยะทางประมาณ 650 กิโลเมตร ขึ้นรถไฟที่สถานี Leningrad station หรือ Ленинградский вокзал ในภาษารัสเซีย
ตอนเช้าผมถึงที่สถานี Moskovsky ของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ก็ลากกระเป๋าไปยัง Hostel ที่จองไว้คือ VeloHostel (https://velohostel.com/en) ซึ่งมีอยู่ 2 สาขา ผมเลือกสาขาที่ใกล้สถานีรถไฟ ซึ่งถือว่าเป็น Hostel จักรยานที่น่ารัก ที่เลือกเพราะสามารถเช่าจักรยานได้ คิดเป็นวันๆละประมาณ 70 กว่าบาท ปรากฏว่าผมมาสาขาผิดต้องลากกระเป๋าไปอีกสาขาที่ติดแม่น้ำ ใกล้แหล่งท่องเที่ยวกว่า ตกแต่งคล้ายกันแต่ใหญ่กว่าสาขาแรกมี 3 ชั้น มีจักรยานแบบสปอร์ตให้เช่าด้วยซึ่งก็ลงตัว แต่ก็เล่นตัดกำลังไปประมาณ 2 กิโลเมตร สำหรับระบบการเช่ารถจักรยานเหมือนมอสโกก็มีเหมือนกันเป็นระบบรถเช่าที่มีทุกจุด
เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือ ซังค์เปเตร์บูร์ก Санкт-Петербу́рг ในสายตาแรกพบของผมเป็นเมืองมรดกโลกสุดแสนเสน่ห์ ที่ได้บรรยากาศคนละขั้วกับมอสโก และเมืองนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและรัสเซีย โดยในปี 1897 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า (รัชกาลที่5) เสด็จเยือนเมื่อ 120 ปีที่ผ่านมา St. Petersburg มีสะพานประมาณ 350 สะพานเชื่อมข้ามแม่น้ำเนวา (Neva) ซึ่งได้ถูกขนานนามว่า Venice of the North ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมยุคบาโรคและนีโอคลาสสิกที่ดึงดูดความสนใจ ถนนหนทางกว้างใหญ่มีเลนสำหรับจักรยานเพื่อปั่นไปได้ทั่วจริงๆ
วันนี้จึงจะเริ่มวางแผนว่าจะปั่นไปที่ไหนบ้าง โดยจะเก็บในตัวเซนต์ปีเตอร์สเบิรก์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก VELO Hostel ได้แก่
· Dvortsovaya Square (จตุรัสพาเลซ) ซึ่งมีเสาหินอเล็กซานเดอร์ Alexander Column ตั้งอยู่ เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก .
· Peter and Paul Fortress (ป้อมปีเตอร์แอนด์ปอล) เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1712 แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ.1733 สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน Domenico Andrea Trezzini เพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตั้งชื่อโบสถ์ตามชื่อนักบุญ 2 องค์ ผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนาคือ นักบุญปีเตอร์และนักบุญพอล ซึ่งประชาชนนับถือเป็นอย่างมาก ความสูงของยอดโบสถ์ 122.5 เมตร
· St. Isaac’s Cathedral (วิหารเซ็นไอแซค) เป็นหนึ่งในมหาวิหารที่สวยที่สุดของรัสเซียออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส
· Admiralty (ตึกบัญชาการฐานทัพเรือ) เป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยใกล้เคียงมีเรือรบหลวงออโรร่า (Cruiser Aurora) เป็นเรือประวัติศาสตร์ที่ร่วมรบกับรัสเซียมาแล้วหลายครั้ง
· Nevsky Prospect (ถนนเนฟสกี้) เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะถนนประวัติศาสตร์ ศูนย์กลางของนครเซนต์ปีเตอร์สเบริ์ก ความยาวของถนน 4.5 กิโลเมตร สร้างในปี ค.ศ.1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช
· Church of Christ’s Resurrection (โบสถ์แห่งหยดเลือด) สร้างให้เป็นเกียรติแด่พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้ประกาศเลิกทาส ด้วยความหวังดีต่อประชาชน ปรากฎว่าชาวรัสเซียไม่เข้าใจ เพราะหลังเลิกทาส ชาวนากลับมีความเป็นอยู่ที่จนลง เป็นผลให้พวกชาวนารวมตัวกันว่าแผนปลงพระชนม์ โดยส่งหญิงชาวนาผู้หนึ่งติดระเบิดพลีชีพวิ่งเข้ามาขณะพระองค์เสด็จผ่าน ต่อมาบริเวณถนนที่เกิดเหตุนั้นถูกสร้างโบสถ์ครอบไว้ กลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้
· โบสถ์สมอลนี (Smolny Cathredral) เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยน Bartoloeo Francesco Rastrelli บริเวณโดยรอบประกอบด้วยสวนและอาคารต่างๆ ที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยของพระนางแคทเธอรีนมหาราช เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรม สตรีชั้นสูง เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในราชสำนักและชีวิตประจำวัน ปัจจุบันอาคารเหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของภาควิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ทั้งหมดทุกท่านสามารถปั่นเก็บได้ภายในวันเดียวได้ครับ ยิ่งวันฟ้าเปิดแล้วสวยงามมาก ผมมีเวลาที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 2 วัน ได้ปั่นเก็บเกี่ยวซึมซับบรรยากาศที่นี่ได้อย่างเต็มที่ ปั่นไปรอบเมืองแบบเจาะสถานที่ท่องเที่ยวและปั่นตามแนวแม่น้ำเนวา ซึ่งตลอดเส้นทางได้เห็นชาวเมืองที่นี่ใช้จักรยานในการเดินทางสัญจรเป็นปกติในชีวิตประจำวัน
“เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก” เป็นเมืองน่าปั่นในจินตนาการจริง อากาศที่เหมาะสม มีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเดินทางโดยจักรยาน เส้นทางการปั่นกว้างขวาง ปั่นแบบไม่ต้องกังวล ถือเป็นนครแห่งการปั่นของยุโรปแห่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ เป็นเมืองที่น่าอยู่จริงๆครับ