Travel & Route
ปั่นเลาะน้ำปิง จากนครพิงค์ไปหริภุญไชย

เรื่อง   Akom Joe

 

การวางแผนเส้นทางปั่นจักรยานในระยะทางที่เหมาะกับกำลังน่องของตัวเองคือสิ่งที่สำคัญ เพราะหากดูเป้าหมายที่เราตั้งใจปั่นแบบสุดสวยไปโดยไม่บวกระยะทางขากลับแล้วอาจจะแรงหมดก็เป็นได้

เส้นทางในความตั้งใจมานานแล้วว่าอยากปั่นลัดเลาะแม่น้ำปิง เริ่มต้นจากบ้านที่อยู่แถวอำเภอหางดงของเชียงใหม่ไปถึงลำพูน ครั้งนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องสำรวจเส้นทางภายใต้ภารกิจ “ปั่นเลาะแม่น้ำปิงจากนครพิงค์ไปปั่นชิลล์ที่หริภุญไชย”

ระยะทางที่ดูจาก Google Map ไปกลับอยู่ประมาณ 60 กิโลเมตร

พร้อมแล้วก็จัดพร๊อพ ปลอกแขน หมวก ถุงมือ แว่นตา ขึ้นควบจักรยานคู่ใจไปกันในเวลาก่อนเที่ยง 

จริงๆจากเชียงใหม่ไปลำพูนก็สามารถปั่นไปได้หลายเส้นทาง หากเริ่มจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็สามารถปั่นลัดเลาะแม่น้ำปิงไปได้เลย ซึ่งจะผ่านหลายตำบลตั้งแต่ช้างคลาน ป่าแดด สันผักหวาน ขุนคง หนองตอง (สันป่าตอง) จนถึงถนน 1015 ที่จะมีสะพานแม่น้ำปิงแบ่งเขตระหว่างเชียงใหม่ ลำพูน ก็เลี้ยวซ้ายตรงเข้าสู่เมืองลำพูนได้เลย

ใจของนักปั่นวันนี้คือการได้ไปกราบพระธาตุหริภุญไชย และปั่นชิลล์สำรวจเมืองลำพูน ส่วนขากลับจะวกลงในเส้นทางสายต้นยาง ตัดซ้ายเข้าอำเภอสารภี และกลับบ้านที่หางดง นั่นคือ Mind Map

จากจุดเริ่มต้นอำเภอหางดงเข้าสู่เส้นทางบ้านถวายเพื่อบรรจบแม่น้ำปิงที่ตำบลขัวมุง จากนั้นก็ถึงเวลาปั่นเลาะวิถีโค้งของแม่น้ำปิงไปสู่ลำพูน ซึ่งระยะทางขาไป Google Map ระบุไว้ประมาณ 18 กิโลเมตรที่ใจเราคิดว่าสบายมาก

ปั่นผ่านเส้นทางที่เขียวชอุ่ม ส่วนใหญ่จะเห็นต้นก้ามปูประดับริมแม่น้ำปิง รูปทรงสวยงามตา ปั่นไปเรื่อยก็จะเห็นวิถีประมงริมแม่น้ำปิงที่มีทั้งกระชังเลี้ยงปลา ฝายน้ำล้นที่มองดูคลื่นแม่น้ำปิงที่ไหลลื่นลงสวยงามแปลกตา คนตกปลาริมน้ำ การปั่นครั้งนี้จะได้เห็นวิถีชีวิตริมแม่น้ำปิงที่น่าสนใจ หายเหนื่อยได้เช่นกัน

ถึงสะพานท่าขุนคง –ท่าสองแคว เราเลือกที่จะปั่นข้ามสะพานข้ามไปเขตลำพูนทันทีเพื่อใช้เส้นทางการปั่นเลาะแม่น้ำปิงผ่านฝั่งลำพูน เพราะครั้งหนึ่งเราเคยปั่นในฝั่งเชียงใหม่มาแล้ว ถือว่าถนนฝั่งนี้ยังไม่ราบเรียบเมื่อเทียบกับฝั่งริมแม่น้ำปิงเชียงใหม่ ตลอดระยะทางปั่นไปชมน้ำปิงไป ก็ได้บรรยากาศที่ดีทีเดียว

เมื่อปั่นมาถึงสะพานล้องปู่หม่น ซึ่งเป็นอีกสะพานเชื่อม 2 จังหวัดก็เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ถนนหลายเลข 1015 ที่จะมุ่งสู่หริภุญไชย หรือจังหวัดลำพูน เป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ยังคงมนต์เสน่ห์ เมืองที่เก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,300 ปี

เราปั่นถึงลำพูนช่วงบ่ายๆ ปั่นผ่าน“วัดจามเทวี” ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยล้านนา ซึ่งพระเจดีย์ภายในวัดมีชื่อว่า “พระเจดีย์สุวรรณจังโกฎ” ลักษณะองค์พระเจดีย์ เป็นสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาในประเทศอินเดีย แต่ละด้านมีพระพุทธรูปยืนปางประทานพรอยู่เป็นชั้นๆ แต่ละชั้น นับเป็นสถาปัตยกรรมสำคัญในศิลปกรรมหริภุญชัย ภายในพระเจดีย์บรรจุอัฐิของพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัย   

จากนั้นก็แวะจิบน้ำเกลือแร่ที่เซเว่น เพื่อปั่นต่อไปยังเป้าหมายที่ตั้งใจไว้คือ  “วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร” ซึ่งเป็นปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนาน มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือ “พระบรมธาตุหริภุญชัย”  ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุคือธาตุกระหม่อม ธาตุกระดูกอก ธาตุกระดูกนิ้วมือ และธาตุย่อยอีกเต็มบาตร ก่อนจะเข้าสู่วัด จะต้องผ่านซุ้มประตูโขงก่ออิฐถือปูน ประดับลายปูนปั้นที่อ่อนช้อยสวยงาม เป็นศิลปะทวารวดี เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่สูง 3 เมตร คู่หนึ่งยืนสง่าบนแท่นสูง สวยงามเป็นอย่างมาก

จริงแล้วลำพูนได้จัดเส้นทาง “เมืองปั่นได้ปั่นดี” ไว้ 4 เส้นทาง ซึ่งวันนี้เราคงปั่นได้ไม่ครบ เพราะต้องปั่นกลับเชียงใหม่ โดยเส้นทางในลำพูนที่น่าสนใจ  4 เส้นทาง และที่สำคัญทันสมัยด้วยแอพพลิเคชั่น SMART LAMPHUN TRIP เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่ออำนวยความสะดวกในการปั่นจักรยานท่องเที่ยวเมืองลำพูนคือ

เส้นทางที่ 1 เส้นทางเชื่อมต่อต้นยาง ลำพูน สารภี เชียงใหม่

เส้นทางที่ 2 เส้นทางวัดจามเทวี รอบคูเมืองเก่าลำพูน

เส้นทางที่ 3 เส้นทางสถานีรถไฟ เลียบริมน้ำกวง

เส้นทางที่ 4   เส้นทางกลางเมืองเก่า สวนสาธารณะเครือสหพัฒน์

แวะร้านกาแฟ เค อาร์ ถนนเส้นกลางตัวเมืองลำพูน เลยศาลากลางมานิดเดียว พักคลายเหนื่อย จิบกาแฟและชามะนาวเย็นๆ ก่อนปั่นกลับเชียงใหม่

ขากลับใช้เส้นทางสายลำพูน-สารภี เพื่อตัดเข้าสู่อำเภอหางดงที่ตำบลป่าแดด และสันผักหวาน ระยะทางการปั่นครั้งนี้รวมระยะทางไปกลับอยู่ที่ราวๆ 60 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่ไม่มีความชัน ปั่นได้สบายแม้ช่วงท้ายจะแผ่วปลายไปบ้าง

เส้นทางลัดเลาะแม่น้ำปิงจากนครพิงค์สู่หริภุญไชยนั้น สุดชิลล์ 

 

อ้างอิง :  เว็บลำพูนเมืองปั่นได้เมืองปั่นดี http://www.lamphuncycling.com

banner ด้านขวา 1
banner ด้านขวา 2
Peenfa Creation