เรื่อง/ภาพ Akom Joe
การได้มาเยือนฮัมบูร์ก (Hamburg) เมืองท่าระดับโลกแห่งเยอรมนี ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากของผม ที่จะได้สำรวจเมืองด้วยจักรยานที่ถือว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับจักรยานแห่งหนึ่ง เพราะเป็นเมืองที่ผลิตประกอบเครื่องบินของแอร์บัส เป็นเมืองที่มีท่าเรือขนาดใหญ่กระจายสินค้าจากยุโรปสู่ทั่วโลกและมีความคึกคักมากเป็นอันดับสองของ EU สินค้าส่วนใหญ่มุ่งสู่จีน ถือว่าเป็นเมืองที่ขนานนามกันว่าเป็นว่า "ประตูสู่โลก" (Gateway to the World)
การขึ้นชื่อชั้นว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่มนต์เสน่ห์แห่งเมืองท่าสำคัญแห่งนี้ถือว่ามีความหลากหลายทั้งงานหัตถกรรม งานออกแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามและเป็นมรดกโลก
ผมเลือกที่จะใช้จักรยานปั่นสำรวจเมืองและมรดกโลก 2 แห่งในฮัมบูร์ก คือ โกดังชไปเคอชตัท (Speicherstadt) และ อาคารสถาปัตยกรรม คอนทอร์เฮ้าส์ Kontorhausviertel ฮัมบูร์ก ซึ่งได้พัฒนาสร้างขึ้นใหม่ในช่วงปี1949-1967 ส่วน ชีเลเฮาส์ ได้ใช้เวลาสร้างขึ้นจากปี 1920-1940 โดยสร้างเป็น office complexes มีขนาดใหญ่ และต่อมา ชีเลเฮาส์ ได้กลายเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประเทศ
บรรยากาศทั่วไปของเมืองถือว่ามีผู้คนใช้จักรยานในชีวิตประจำวัน และท่องเที่ยวอย่างหนาตาพอสมควร ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางก็ว่าได้ เพราะมีที่จอดจักรยานในทุกถนน โครงสร้างการจราจรการเดินทางเป็นมิตรกับการใช้จักรยานแห่งหนึ่งของยุโรปเลยทีเดียว
ผมเริ่มปั่นจากโรงแรมที่พักคือ โรงแรมโซฟิเทลซึ่งอยู่ใจกลางเมืองลัดเลาะไปตามเส้นทาง อาคารแรกที่พบคือหอการค้าเมืองฮัมบูรก์ Handwerkskammer Hamburg ที่เคยมีความร่วมมือกับหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ในการสนับสนุนงานหัตถกรรมเครื่องเงิน ซึ่งฮัมบูรก์มีชื่อเสียงด้านงานฝีมือหัตถกรรม เลยตั้งชื่อหอการค้ารวมกับคำว่างานฝีมือไว้ด้วยกัน Hamburg Chamber of Crafts
หลังจากนั้นก็เลี้ยวซ้ายผ่านหอการค้าฯ ก็จะพบกับ ราทเฮาส์ (Rathaus) หรือ ศาลาว่าการเมืองฮัมบวร์ก (TOWN HALL) สร้างในปี ค.ศ. 1887 ด้วยศิลปะแบบนีโอ-เรอเนสซองส์ (NEO-RENAISSANCE) รองรับด้วยเสาเข็มไม่น้อยกว่า 4,000 ต้น ชม มีหอคอยสูง 112 เมตร เป็นที่ทำการของรัฐบาลและรัฐสภา ด้านในมี 647 ห้อง ด้านหน้าเป็นจัตุรัสทาวน์ฮอลล์ (Rathausmarkt) มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาถ่ายภาพที่ระลึกจุดนี้ ซึ่งเป็นลานกว้าง ที่มีไว้จัดงานเทศกาลสำคัญต่างๆ ของเมือง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน
ก่อนจะวนไปชมสถานที่มรดกโลกก็ต้องปั่นไปชมสถานีรถไฟของฮัมบูร์ก ซึ่งเป็นย่านที่นักท่องเที่ยว นักเดินทางพลุกพล่านมากที่สุดจุดหนึ่งแน่นอน Google Map ช่วยได้เยอะในการนำทางให้ผม
หลังจากนั้นไปสถานีรถไฟ ผมปั่นลัดเลาะไปยัง โกดังชไปเคอชตัท(Speicherstadt) ที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของเมืองฮัมบูรก์ และเป็นแห่งที่ 40 ของเยอรมนี มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Neo-Gothic สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว
ความงดงามของเหล่าอาคารคลังสินค้าที่สร้างขึ้นจากอิฐสีแดง โดยหนึ่งในคลังสินค้าที่เก่าแก่ที่สุด คือ Kaispeicher B กลายปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์การเดินเรือระหว่างประเทศ ผมคิดว่าย่านโกดังชไปเคอชตัท เป็นจุดไฮไลท์สำคัญของฮัมบูรก์ที่เป็นแหล่งที่น่าเดิน มีร้านรวงร้านกาแฟอยู่มากมาย ได้บรรยากาศติดริมน้ำ และสามารถล่องเรือชมอาคารได้ด้วย
อีกเป้าหมายหนึ่งที่สามารถปั่นจากโกดังชไปเคอชตัท ไปยังย่านอาคารสำนักงานคอนทอร์เฮ้าส์ ที่อยู่ติดกัน โดยทั้ง 2 เขตถูกสร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 มีความโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Neo-Gothic เป็นตึกดีไซน์ที่แปลกตา มีหลังคาปลายแหลมพุ่งชี้ขึ้น ตึกก็เป็นแนวแคบสูง สีดำ ที่เป็นมรดกโลกเพราะได้สะท้อนถึงภาพการค้าระหว่างประเทศที่ใช้อาคารแห่งนี้เป็นที่ติดต่อด้วยการออกแบบดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์
นอกจากนั้นที่ใกล้เคียงยังสามารถชมโบสถ์เซนต์ นิโคไล (St.Nikolai Church) 1 ใน 5 โบสถ์สําคัญ ที่ถูกทําลายช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 แต่โบสถ์นี้เป็นแห่งเดียวที่ไม่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ เพราะต้องการให้ เป็นเครื่องเตือนใจถึงความโหดร้ายของสงคราม ถัดไปไม่ไกลจะเป็น โบสถ์เซนต์ไมเคิล (St. Michaelis Church) ถือว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของฮัมบูร์ก ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่ไมเคิล หัวหน้าทูตสวรรค์
ประติมากรรมชิ้นใหญ่เป็นรูปเทพไมเคิลดูสะดุดตา โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นโบสถ์ใหญ่ที่สุดในเมืองฮัมบูร์ก ซึ่งสามารถจุคนได้ถึง 2,500 ที่นั่ง ส่วนยอดแหลมสัมฤทธิ์ของโบสถ์นั้นมีความสูง 132 เมตร ที่นี่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่แสนจะคุ้นตาทั้งสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของวิวเส้นขอบฟ้าฮัมบูร์ก สามารถมองเห็นได้จากพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมือง แรกเริ่มเดิมทีโบสถ์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1647 ผ่านการบูรณะซ่อมแซมมาหลายครั้ง และยังมีประภาคารที่สร้างเป็นอาคารทรงกลมที่ชาวบ้านเรียกว่า MICHEL และต่อมาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
การปั่นจักรยานเพื่อเก็บไฮไลท์ของเมืองฮัมบูรก์เป็นสีสันหนึ่งที่ทำให้ผมรู้ว่า เมืองแห่งนี้ให้ความสำคัญและไม่ทิ้งจักรยานในการเดินทางในชีวิตประจำวันและการท่องเที่ยว ที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว ฮัมบูร์กจะมีระบบ City Bike เรียกว่า “StadtRAD Hamburg” ซึ่งภายในฮัมบูร์กมีสถานีสำหรับให้เช่าจักรยานถึง 80 สถานีด้วยกัน โดยเมื่อเช่าอีกสถานีหนึ่ง สามารถนำไปคืนอีกสถานีหนึ่งก็ได้ ถือว่าสะดวกสบายมากครับ
อ้างอิง : https://stadtrad.hamburg.de และ http://www.hamburg-travel.com