เรื่อง/ภาพ อ.ธนกฤต มีสมจิตร
สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาเมือง มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ตอนที่ 3 นี้ จะขอเล่าย้อนถึงวันบินสู่โรม ผมเปลี่ยนถ่ายเครื่องที่สนามบินอาบูดาบี-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บินมุ่งสู่กรุงโรม-อิตาลี นั่งเปิดดูข่าวบนเครื่องบินจากจอส่วนตัวแต่ละที่นั่งผู้โดยสาร
ทุกช่องในสหภาพยุโรปต่างก็เสนอข่าวครบรอบ 1 ปี (13 พฤศจิกายน 2558) ในเหตุการณ์ระเบิดที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 130 รายกลางกรุงปารีสด้วยกันทั้งสิ้น ในข่าวมีประธานาธิบดีฝรั่งเศสและนายกเทศมนตรีมหานครปารีสเข้าร่วมพิธีรำลึกเหตุการณ์ ซึ่งจัดขึ้น ณ บริเวณที่เกิดเหตุหลายจุดด้วยกัน
ผมยังนั่งนึกอยู่ในเครื่องบินว่า เอ..หลังแลนดิ้งแล้ว ตามแหล่งท่องเที่ยวในโรมจะมีนักท่องเที่ยวมากน้อยแค่ไหน บรรยากาศเมืองจะซบเซาหรือคึกคัก และนึกลุ้นแบบปอดแหกเล็กๆ ว่าโรมจะเป็นเป้าหมายครบรอบ 1 ปีของผู้ก่อการร้ายเอาด้วยไหม!
วันแรกที่เหยียบโรม เรามาถึงโรงแรมที่พักราวเที่ยง ช่วงบ่ายนี้เป็นวันฟรีเดย์ ผมกับบัดดี้ออกย่ำเดินสำรวจรอบๆ ละแวกที่พัก (สี่แยกย่านถนน Emillia) เดินแหงนคอตั้งบ่ากับตึกรามบ้านช่องของชาวโรม ถนนหนทาง ทางเดินที่กว้างเรียบ สะอาด สวยงาม และน่าย่ำเท้า พร้อมดื่มด่ำกับลมหนาวแห่งโรม...
การเที่ยวกรุงโรม ค่าครองชีพถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง ไม่ถูกไม่แพง อาหารพื้นๆ ในเมือง เช่น พิซซ่า ก็ราว 3-4 ยูโร (ราว 120-160 บ.) น้ำประปาเมืองนี้ ก็สะอาดพอที่จะกินได้สบาย ผมพักในโรงแรมที่ชั้น 2 แบบว่า กำลังดี เดินขึ้นบันไดโดยไม่ต้องรอลิฟท์ ห้องเล็กกะทัดรัด มีหน้าต่าง 1 บาน แง้มรับลมหนาว และไม่ต้องเปิดฮีตเตอร์
ในภาคเย็นที่มาถึงโรม ผมแค่เดินไปเช็คอินที่ลานน้ำพุหน้าโรงแรม Bernini ที่เป็นสถานที่ประชุม หลังจากนั้น ถ่ายรูปหน้าลานน้ำพุหน้าโรงแรมกับผองเพื่อนเสร็จแล้ว ผมแสนจะเหนื่อยล้า ก็ดอดกลับโรงแรมคนเดียว อาบน้ำอุ่นแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงหลับผล็อยไปเลย เพราะนาฬิกาชีวิตจะรวนเนื่องจากเวลาของโรมช้ากว่าไทยอยู่ 6 ชั่วโมง จึงไม่แน่ใจว่าจะตื่นไวแค่ไหน แต่หลับไวในคืนแรกแบบสลบไสลนั้น แน่นอน!! เพราะนั่งเครื่องมา 2 ทอด 10 กว่าชั่วโมง ผมนั้นอยากหลับเป็นตายบนที่นอนนุ่มๆ ในโรงแรม ส่วนกลุ่มสาวๆ นั้น ผมมารู้เอาตอนเช้าว่าออกไปกินพิซซ่าต้นตำรับในภาคค่ำกันตามร้านอาหารในเมือง
รุ่งขึ้นวันที่ 2 หลังทานมื้อเช้าแบบ American Breakfast ที่ห้องอาหารชั้นใต้ดินของที่พัก-Hotel Savoy แล้ว ก็เดินไปยังสถานที่จัดประชุมวันแรกที่โรงแรม Bernini
ในมื้อเที่ยงเราทานอาหารที่ทางผู้จัดประชุมจัดให้ แต่เป็นการรับคูปองแล้วย่ำเท้าออกไปทานในร้านขึ้นชื่อของเมือง เราได้ลิ้มลองพิซซ่าต้นตำรับ ซึ่งแต่ละคนก็พยายามเลือกเมนูไม่ให้ซ้ำหน้ากัน เพื่อจะได้ลองกันหลายๆ รส พิซซ่าหน้าซีฟู้ด ดูจะเป็นเมนูร้อนๆ จากเตาที่ถูกสั่งมาเคี้ยวกรุบกร้วมกันมากสุดกว่าหน้าอื่นๆ แต่เพราะอาหารจานเดียวของร้านนี้เล็กกว่ากระด้งนิดเดียว ครึ่งหลังอาหารอิตาเลี่ยนจึงเริ่มเลี่ยน และเหลือทิ้งกันกว่าครึ่งก็หลายจาน !! ดีว่าผมสั่งเครื่องดี่มเป็น Soda Tonic จึงค่อยดับเลี่ยนไปได้บ้าง และจัดการอาหารมื้อนี้เสร็จหลังสุดไปเกือบหมดกระด้งน้อย!!
ครั้นเลิกประชุมตอนบ่ายแก่ๆ เราได้คูปองตั๋วนั่งรถชมเมือง (sightseeing tour) จากฝ่ายผู้จัดงาน International Academic Conference ถือเป็นช่วงเวลาที่แสนดี ที่จะได้คลายเครียดหลังสาระวิชาการ เรานัดเวลาขึ้นรถไว้อีก 1 ชั่วโมงถัดไปเพื่อเดินกลับที่พักเปลี่ยนองค์ทรงเครื่อง แล้วรีบจ้ำอ้าวไปกลับมายืนรอคิวขึ้นรถบัสอยู่ใต้ต้นส้มริมฟุตบาทข้างโรงแรม Bernini อีกครั้ง เย็นนี้จะได้ขึ้นรถบัสเปิดประทุนแล้วหาที่นั่งเหมาะๆ ยังดาดฟ้ารถ 2 ชั้น เพื่อเที่ยวรอบเมืองทำความรู้จักกรุงโรมเสียให้หนำใจ!
เราได้รับคูปองขึ้นรถบัสชมเมือง (Rome on a Shoestring an Open Decker Panoramic Tour) พร้อมแผนที่กระดาษที่บอกเส้นทางวิ่งของเจ้า BigBus ชมเมือง จะมีรอบออกวิ่งตั้งแต่ราว 9 โมงเช้า และสิ้นสุดในตอน 18:30 น. ที่ความถี่ทุก 10 นาที โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถสายที่ซื้อตั๋ว (ทริปนี้เราขึ้นสายสีเขียว-Green Line Tour/Weekday Route) BigBusจะพาเราไปยังแหล่งท่องเที่ยว high-light ราว 7-8 แหล่ง และเราสามารถแวะลงเดินเที่ยวชม ถ่ายรูปที่จุดใดก็ได้โดยไม่ต้องพะวงว่าจะตกรถ เพราะสามารถขึ้นสายสีเดียวกันคันใหม่ได้เสมอ
เมื่อก้าวขึ้น BigBus ผมปีนขึ้นไปที่นั่งชั้น 2 ยังดาดฟ้ารถ จะถ่ายรูปได้สะดวกโดยไม่มีหน้าต่างกระจกขวางกั้น เส้นทางข้างหน้ามีสิ่งสวยงามและเจิดจ้าอลังการ รอให้เราไป check-chic ทั้ง Colosseum, Santa Maria Maggiore, Bocca Della Veritta/Circo Massimo, Piazza Venezia/Campidoglio, Fontana di Trevi/Piazza di Spagna/Piazza del Popolo และ Piazza Barbernini
บนรถ BigBus นั้น มีทั้ง wi-fi และหูฟังสำหรับฟังบรรยายแหล่งท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ค่อยได้เสียบฟังกันหรอก เพราะมัวแต่ถ่ายรูปวิวสวยๆ 2 ข้างทาง พูดคุยกันไปตลอดเส้นทาง และชี้ชวนกันดูสถาปัตยกรรมที่แสนยิ่งใหญ่แห่งกรุงโรม
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง คือเมืองโรมันทั้งเมือง ...