เทศบาลนครเชียงใหม่เร่งผลักดันโครงการจักรยานเพื่อแก้ปัญหาการจราจร เดินหน้าส่งเสริมการใช้เส้นทางสัญจรและท่องเที่ยวโดยจักรยาน มุ่งสู่การเดินทางแบบไร้เครื่องยนต์ ผุดโครงการจักรยานสาธารณะให้เช่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกำหนดผังเขตเทศบาลเป็นเขต Slow City หนุนเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งการปั่น
ด้วยจำนวนรถในจังหวัดเชียงใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากถึง 1 ล้านคัน ส่งผลให้การจราจรของเมืองเชียงใหม่ในเขตเทศบาลเริ่มติดขัดมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่จะเข้าสู่ภาวะวิกฤตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเทศบาลนครเชียงใหม่ได้เตรียมแผนแก้ปัญหาการจราจรเป็นวาระเร่งด่วนสำคัญ
ประการแรก กำหนดให้เขตเมืองเก่าหรือเขตตัวเมืองชั้นในเป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์ และมีการสร้างทางจักรยานเพิ่มขึ้น
ประการที่สอง จัดทำโครงการจักรยานสาธารณะให้เช่าและจุดคืนจักรยานจำนวน 16 จุด เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางสัญจรในเขตเทศบาลโดยจักรยาน
ประการที่สาม จัดทำโครงการรถเมล์ขนาดเล็ก 23 ที่นั่ง จำนวน 6 คัน ที่มีการติดตั้งจุดแขวนรถจักรยาน เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางกับจักรยานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ประการที่สี่ กำหนดความเร็วของรถในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่เป็นเขต Slow City ซึ่งรถทุกประเภทให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและอำนวยประโยชน์ให้กับประชาชน-นักท่องเที่ยวที่เดินทางสัญจรโดยจักรยาน
ทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่า เทศบาลนครเชียงใหม่ได้กำหนดนโยบายและตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้เขตเมืองเก่าหรือเขตตัวเมืองชั้นในเป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์ โดยมุ่งส่งเสริมการเดินทางโดยจักรยานให้มากขึ้น ซึ่งโครงการจักรยานสาธารณะให้เช่าเป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมการเดินทางสัญจรโดยจักรยานในเขตเทศบาลนครเชียงบใหม่ ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงจะมีส่วนช่วยแก้ปัญหาการจราจรได้อีกทางหนึ่ง
ทั้งนี้ จุดเช่าและคืนจักรยานมีจำนวน 16 จุด มีจักรยานรองรับจำนวน 150 คัน เริ่มเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2558 เป็นต้นไป เบื้องต้นเริ่มที่จำนวน 5 จุด ในเขตเมืองเก่า อาทิ สถานีที่วัดพระสิงห์ สถานีพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา ท่าแพ ฯลฯ และจะขยายเพิ่มในเดือนมิถุนายนในเส้นทางตะวันตกอีก 5 จุด คือย่านถนนห้วยแก้ว และเดือนกรกฎาคมในเส้นทางด้านตะวันออกอีกจำนวน 6 จุด แถวย่านวัดเกตุและย่านสถานีรถไฟก็จะแล้วเสร็จ โดยจุดเช่าและคืนจักรยานทั้งหมดนี้มีให้บริการทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยใช้ระบบบัตรเช่าอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Rental Card) ซึ่งสามารถเช่าจักรยานจากพื้นที่หนึ่งและคืนจักรยานในพื้นที่อื่นได้
สำหรับอัตราค่าเช่ารถจักรยาน ชั่วโมงแรกคิดค่าบริการ 20 บาท (ผู้ใช้บริการคนไทย ในชั่วโมงแรกไม่คิดค่าบริการ) ชั่วโมงที่ 2-3 คิดค่าบริการ 40 บาท ชั่วโมงที่ 4-5 คิดค่าบริการ 60 บาท ชั่วโมงที่ 6-8 คิดค่าบริการ 80 บาท และชั่วโมงที่ 8 ขึ้นไป คิดค่าบริการ 100 บาท
“ในเขตเมืองเก่ามีความเหมาะสมที่จะใช้จักรยาน เพราะเป็นเขตโบราณสถาน มีวัดเก่ามากมายหลายวัด เช่นวัดเชียงมั่น เป็นวัดแห่งแรกของเชียงใหม่ เราสามารถปั่นไปเที่ยวชมวัด สามารถเดินทางโดยใช้จักรยาน เป็นการเดินทางและท่องเที่ยวแบบช้าๆ”
ทัศนัย บอกว่า โครงการปั่นจักรยานแอ่วเมืองเก่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในโครงการส่งเสริมเมืองจักรยาน จะช่วยแก้ปัญหาเมืองในสองมิติคือ การจราจร และการฟื้นฟูวัฒนธรรม ซึ่งอนาคตจะเพิ่มจำนวนจักรยานและมีจุดจอดที่ทั่วถึงสะดวกสบาย ขณะเดียวกัน การนำรถเมล์ขนาด 23 ที่นั่งเข้ามาให้บริการ ก็จะช่วยลดปริมาณการใช้รถส่วนตัวลงได้ระดับหนึ่ง และเป็นการเชื่อมโยงการเดินทางเอื้อต่อจักรยานได้อย่างมาก ซึ่งระยะแรกจะทดลองวิ่งบนเส้นทางวนขวาและซ้าย (วงแหวนรอบใน) กำหนดส่งมอบรถภายในเดือนพฤษภาคม 2558
“เราคาดหวังว่าในเขตเมืองเก่าจะมีการใช้รถส่วนตัวน้อยลง แต่การใช้จักรยานจะเพิ่มมากขึ้น มีการเดินทางที่เชื่อมต่อระหว่างจักรยานกับรถขนส่งมวลชนหรือรถเมล์ เป็นการตอบโจทย์ได้ครบทั้งแก้ปัญหารถติด การรักษาวัฒนธรรม”
ขณะเดียวกัน เทศบาลฯยังได้ปรับปรุงพื้นผิวจราจร โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่าพื้นผิวจราจรแคบ จึงค่อนข้างยากที่จะแบ่งแยกสำหรับทางจักรยานกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์ จึงได้กำหนดพื้นที่และการตีเส้นทางจักรยานบนทางสัญจรร่วมกับยานพาหนะอื่นๆ ในเบื้องต้นได้ดำเนินการตีเส้นผิวจราจรแล้วบางสาย เช่น ถนนราชวิถี ถนนพระปกเกล้า ถนนราชดำเนิน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงทางเท้าเพื่ออำนวยความสะดวกต่อทุกกลุ่มผู้พิการ โดยทำทางลาดเพิ่มเติม รื้อ/ย้ายสิ่งกีดขวางต่างๆ ในระยะแรกได้ดำเนินการในเขตเมืองเก่า ส่วนปัญหาการจอดรถทับเส้นทางจักรยาน จะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเพื่อไม่ให้มีการนำพาหนะทุกประเภทมาจอดทับเส้นทางจักรยาน และจะประสานกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำกฎหมายมาบังคับใช้