โดย ชาจีน
จากเมืองใหญ่สุดแสนที่จะแออัด มากด้วยปัญหาอาชญากรรมและโคเคน ทว่า วันนี้ “โบโกต้า” เมืองหลวงของประเทศโคลัมเบีย เปลี่ยนโฉมไปอย่างน่าตื่นตายิ่ง เพราะกลายเป็นเมืองจักรยาน ที่หลายๆ เมืองของหลายๆ ประเทศอยากเดินตามรอย
ความเป็นเมืองจักรยานของโบโกต้าในทุกวันนี้ มาจากไอเดียสุดเท่ของ “เอนริเก้ เพนาโลซ่า” นายกเทศมนตรีเมืองโบโกต้า ในช่วงค.ศ. 1998–ค.ศ. 2001 แนวคิดสุดล้ำของผู้บริหารท้องถิ่นผู้นี้ก็คือ เมืองต้องเป็นที่อยู่อาศัย เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี พลเมืองทุกคนต้องมีโอกาสเข้าถึงพื้นที่สาธารณะอย่างเท่าเทียมกัน
ไอเดียสุดเท่ของผู้บริหารท้องถิ่น ก็คือการปรับปรุงและดีไซน์เมืองที่แออัดทั้งบ้านเรือนและรถราให้เป็นเมืองจักรยาน ลดการพึ่งพาพลังงาน โดยสร้างระบบเส้นทางจักรยานคุณภาพดีและมีประสิทธิภาพ เป็นโครงข่ายเชื่อมจากเมืองเข้าไปจนถึงเขตชุมชนยากจน วางผังภูมิทัศน์ด้วยต้นไม้ริมทางตลอดแนวเส้นทางจักรยาน เป็นโครงข่ายยาว 300 กิโลเมตร ที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน การพัฒนาสู่เมืองจักรยานของโบโกต้าในยุคการบริหารของ “เพเนโลซ่า” ทุ่มเงินลงทุนราว 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่สามารถเพิ่มจำนวนคนขี่จักรยานได้ถึง 20 เท่า
ทุกวันอาทิตย์จะเป็นวันที่ปลอดรถยนต์สำหรับเมืองแห่งนี้ ถนนใหญ่หลายสายในเมืองมีการกั้นทางไม่ให้รถผ่าน ผู้คนสามารถมาเดินเที่ยวเล่น วิ่งเล่น เดิน ออกกำลังกาย ปะทะสังสรรค์กับเพื่อนได้อย่างสุขใจ
การปรับเปลี่ยนเมืองให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ควบคู่กับมาตรการเด็ดขาดทางกฎหมายที่งัดออกมาใช้อย่างจริงจัง เช่น การติดตั้งเสากั้นระหว่างถนนและทางเท้า (Guardrail & Bollard) และเพิ่มพื้นที่ทางเดินให้ประชาชน (Footpath & Sidewalk) เปลี่ยนที่จอดรถเป็นสวนสาธารณะ ว่ากันว่ามีสวนสาธารณะมากถึง 1,200 แห่ง และปลูกต้นไม้เพิ่มทั่วเมืองนับ 100,000 ต้น อีกทั้งเข้มงวดกับมาตรการขึ้นราคาน้ำมันและค่าธรรมเนียมที่จอดรถในเขตเมือง
ทุกวันนี้เมือง “โบโกต้า” มีความปลอดภัยขึ้นกว่าอดีตอย่างมาก และเป็นเมืองที่มีคนเดินและปั่นอยู่ทั่วไป และพบว่าปัญหาและสถิติอาชญากรรมลดลง พลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รถติดและควันพิษน้อยลง สภาพแวดล้อมเพื่อคน-พืช-สัตว์ในเมืองดีขึ้น
เป็นเมืองจักรยานที่เป็นมิตรกับทุกชีวิต