Ride a bike Column
“อัมสเตอร์ดัม” เมืองจักรยานของโลก
เรื่อง  ชาจีน
 
 
ในวันที่แดดจ้าฟ้าใสหรือแม้แต่ในวันที่ฝนตกพรำ ถนนหนทางในกรุงอัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ดินแดนแห่งดอกทิวลิป กังหันลม รองเท้าไม้ และแกะพันธุ์ขน ยังคงคลาคล่ำไปด้วยพลเมืองทั้งเด็กน้อย คนเฒ่าคนแก่ และคนหนุ่มสาว ที่ออกมาสัญจรเดินทางปั่นสองล้อหมุนไปตามแรงน่องอย่างไม่ง้อน้ำมัน บนโครงข่ายเส้นทางจักรยานคุณภาพดีที่สุดในโลก ปลอดภัยสำหรับนักปั่นมากที่สุดในโลก ครองตำแหน่งเมืองที่มีคนใช้จักรยานมากที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมจักรยานของโลกอย่างน่าทึ่ง  
 
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เนเธอร์แลนด์กลายเป็นดินแดนเมืองจักรยานของโลก เกิดขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นห้วงที่ประเทศมุ่งพัฒนาไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ ผู้คนร่ำรวยมีเงินทองจับจ่ายซื้อสินค้าราคาแพง โดยเฉพาะแห่กันซื้อรถยนต์จนเต็มท้องถนน นับจากนั้น ปัญหาเมืองจอแจ มลพิษอากาศ เสียงอึกทึก และสถิติอุบัติเหตุจราจรเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีผู้คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี 
     
กล่าวได้ว่าในห้วงนั้นความปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้าและคนปั่นจักรยานอยู่ในระดับต่ำ พลเมืองส่วนที่เป็นนักปั่นเริ่มหดหายลงเรื่อยๆ จนคนออกมาเรียกร้องหาความปลอดภัยสำหรับคนเดินเท้าและคนปั่นจักรยาน แต่จุดเปลี่ยนสำคัญคือในช่วงปี ค.ศ.1973 ที่เกิด "วิกฤติการณ์น้ำมัน" ทั่วโลก ทำให้ไลฟ์สไตล์ของชาวเนเธอร์แลนด์ต้องเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะนโยบายของภาครัฐเน้นให้พลเมืองพึ่งพาพลังงานให้น้อยลง ปรากฏการณ์ลดการพึ่งพาพลังงานของเนเธอร์แลนด์เกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมาและยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน
 
เมืองหลวงแห่งจักรยานอย่าง “กรุงอัมสเตอร์ดัม” ถือเป็น “เมืองต้นแบบ” ที่มี “วัฒนธรรมจักรยาน” อย่างชัดเจนที่สุดของยุโรป ทุกวันนี้จักรยานเป็นพาหนะที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปทุกมุมของเมือง นั่งนับนิ้วกันแล้ว ว่ากันว่ามีจักรยานมากถึง 1 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองหลวงแห่งนี้ที่มีจำนวนราว 7.8 แสนคน 
 
 
 
กรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรกับการขี่จักรยานมากที่สุด เป็นเมืองที่มีประสิทธิภาพ (Efficiency City) ทั้งการเดินทางอย่างประหยัดพลังงาน ไร้มลพิษ สะอาดและเงียบ มีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่ำ ซึ่งกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของการเดินทางในกรุงอัมสเตอร์ดัมเป็นการสัญจรโดยใช้จักรยาน และยังมีจักรยานสาธารณะให้เช่ากันแพร่หลาย หาได้อยู่ทั่วไป  
     
กรุงอัมสเตอร์ดัมมีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น  219.4 ตารางกิโลเมตร แต่มีเลนสำหรับขี่จักรยานยาวถึง 400 กิโลเมตร และทั้งประเทศมีเลนจักรยานรวมกันยาวถึง 19,000 กิโลเมตร เป็นเลนเฉพาะจักรยานที่แยกสัดส่วนชัดเจนจากเลนรถยนต์ เครือข่ายเส้นทางจักรยานนั้นเชื่อมไปทุกชุมชนทั้งในเมืองและชนบท 
 
“เลนจักรยาน” ในอัมสเตอร์ดัมนั้นโดดเด่นชัดเจนมีเครื่องหมายรูปจักรยานกำกับเป็นระยะๆ มีสัญญาณไฟจราจรสำหรับจักรยานในทุกแยก ปั่นไปเรื่อยๆ เพลินๆ จนถึงจุดหมายก็นำจักรยานคู่ใจไปจอดบริเวณจุดจอดทั้งในอาคารที่จอดจักรยานเฉพาะ ซึ่งสามารถจุจักรยานได้เป็นหมื่นเป็นแสนคัน อาคารจุดจอดจักรยานเหล่านี้พบได้ทั่วไปตามแหล่งชุมชน หรืออยู่บริเวณใกล้เคียงกับจุดเชื่อมต่อกับการคมนาคมประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ รถราง เรือ หรือหากอยากจอดแบบชิวๆก็ไม่มีใครว่า โดยนำจักรยานคล้องไว้กับแร็คจอดจักรยาน หรือผูกไว้กับราวระเบียงริมคลองก็ได้ 
 
ความแข็งแรงของวัฒนธรรมการใช้จักรยานของพลเมืองเนเธอร์แลนด์ในทุกหนแห่ง ทำให้มีการวางผังเพื่อนักปั่นโดยเฉพาะ มีการดีไซน์เมืองอย่างโดดเด่นสวยงามและเอื้ออำนวยความสะดวกให้ชาวเมืองเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างมาก ด้วยการวางแผนจราจรเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมอย่างเป็นระบบ เพราะด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ของ อัมสเตอร์ดัมอันเป็นที่ราบและมีคูคลองล้อมรอบเป็นใยแมงมุมเชื่อมด้วยสะพานกว่า 1,200 แห่ง ใช้รถประจำทางเป็นขนส่งมวลชนร่วมกับเรือคอยบริการประชาชน มีรถไฟบริการขนส่งมวลชนสำหรับการเดินทางเชื่อมต่อกันระหว่างเมือง ซึ่งสถานีรถไฟในกรุงอัมสเตอร์ดัมมีอาคารจอดรถจักรยานสูงถึง 3 ชั้น โดยมีจักรยานเป็นพาหนะขนส่งส่วนบุคคลในการเดินทางระหว่างบล๊อคต่อบล๊อคของเมือง 
 
ดังนั้น ทั่วทุกย่านมุมและตรอกซอกซอยจึงมีแต่คนเดินเท้ากับคนขี่จักรยาน  ส่วนการมีรถยนต์ส่วนบุคคลของพลเมืองในประเทศนี้ถือเป็นเรื่องเกินความจำเป็น ซึ่งหากกวาดตามองหารถยนต์แทบจะนับคันได้ 
 
จักรยานคือ อัมสเตอร์ดัม และอัมสเตอร์ดัม ก็คือ จักรยาน คือ Bicycle friendly City เมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน
 
 
 
banner ด้านขวา 1
banner ด้านขวา 2
Peenfa Creation