เรื่อง/ภาพ ชาจีน
หากลบภาพรถจักรยานยนต์ที่คับคั่งเต็มท้องถนนออกจากเมืองโฮจิมินห์ ฉันว่า อดีตเมืองหลวงเก่าของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม หรือเมืองไซ่ง่อน จัดเป็นเมืองที่มีการวางผังเมืองที่ดีที่สุดและเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในอุษาคเนย์
การจราจรแออัด ติดขัดและดูสับสนวุ่นวายอันเนื่องมาจากรถจักรยานยนต์นับล้านๆคันบนถนนทุกสายในโฮจิมินห์ อาจทำให้ใครก็ตามที่มายลเยือนไม่ประทับใจนัก แต่หากเรามองอีกด้าน นี่คือวิถีชีวิตของชาวเมืองที่ต้องดำเนินไป ภายใต้ข้อจำกัดของระบบขนส่งสาธารณะที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทาง
การเดินทางมาโฮจิมินห์ครั้งแรกของฉัน ตลอด 3 วันที่อยู่ที่นี่ ได้นั่งรถ ได้เดิน ได้วิ่งออกกำลังกายในยามเช้า แม้เป็นช่วงเวลาที่ได้สัมผัสเมืองในระยะสั้นๆ แต่ก็ได้มองเมืองในอีกมุมหนึ่ง “โฮจิมินห์” มีอะไรดีๆซ่อนอยู่
ฉันมองเห็นเนื้อเมืองของเมืองแห่งนี้ ที่ถูกวางผังและออกแบบผังเมืองได้อย่างประสิทธิภาพเหมาะเจาะลงตัว และด้วยเมืองที่เคยเป็นอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสมาก่อน ทำให้มีกลิ่นอายของทางตะวันตกอยู่มาก การดีไซน์เมืองของโฮจิมินห์เหมือนกับหลายๆเมืองในยุโรป มีการแบ่งโซนเมืองเป็นเขตต่างๆ
ในแต่ละย่านถูกวางให้เชื่อมเข้าหากันเป็นบล๊อกๆ ถนนทุกสายบรรจบกันเป็นสี่แยกที่เชื่อมโยงถึงกันระหว่างถนนสายหลัก ถนนสายรอง ที่วิ่งตรงเข้าสู่ศูนย์กลางของเมือง แม้การจราจรจะติดขัด แต่ก็ถือว่ายังมีความคล่องตัวสูง เพราะปริมาณรถยนต์มีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับรถจักรยานยนต์
ถนนที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มีฟุตบาทหรือทางเดินเท้าที่กว้างขวาง (มาก) มีต้นไม้ใหญ่ที่คาดว่าปลูกมาพร้อมๆกับการก่อสร้างถนน เป็นร่มเงา แสนร่มรื่นตลอดสองฝั่งถนนทุกสาย และสิ่งดีๆอีกหนึ่งสิ่งที่ซ่อนอยู่เมืองนี้ก็คือ การมีพื้นที่สีเขียวและสวนสาธารณะจำนวนมากอยู่ใจกลางเมืองในทุกๆย่านสำคัญของเมือง ฉันว่า โฮจิมินห์นี่แหละคือ Eco-City
และท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจโฮจิมินห์ในปัจจุบัน ที่คึกคักด้วยคลื่นการลงทุน ทุนต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาโดยเฉพาะเกาหลี ญี่ปุ่น และอีกหลายๆชาติ ทำให้รัฐบาลเวียดนามเร่งวางผังเมืองของโฮจิมินห์ให้สอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังคงขยายตัวไม่หยุด เพื่อไม่ให้เมืองโตแบบไร้ทิศทาง ด้วยการลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน (Subway) โดยความร่วมมือของรัฐบาลนครโฮจิมินห์กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563
ภาพของโฮจิมินห์ในอีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้า จะถูกพลิกโฉมการเดินทางด้วยโครงข่ายรถไฟฟ้าใต้ดิน ผนวกกับต้นทุนของเมืองที่ถูกออกแบบวางผังไว้เป็นอย่างดี จึงยิ่งเป็นการยกระดับความสะดวกสบายของการเดินทาง ในวันนั้น รถจักรยานยนต์บนถนนอาจมีปริมาณลดลง เพราะคนจะหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น
อนาคตโฮจิมินห์ในสายตาของฉัน จะเป็นเมืองที่น่าอยู่ เหมาะเป็นเมืองแห่งการเดิน เมืองแห่งการปั่นจักรยาน และจะเป็นเมือง Smart ในอุษาคเนย์